วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552

การสร้างอักษรสามมิติ

1.สร้างไฟล์ขึ้นมาใหม่ไปที่เมนู File...New






2.เลือกเครื่องมือ rectangular tool แดรกเมาส์ตีกรอบสี่เหลี่ยม



3.เลือกเครื่องมือ Gradient tool เลือกรายละเอียด รูปแบบแสดงผล และสี เลือกสีเหลืองเข้มไปหาสีขาว จากนั้นแดรกเมาส์จากว้ายไปขวาด้านขวาดังภาพ



4.ย่อเส้นปะเข้ามาอีก 10 จุดโดยไปที่เมนู Select--Modify--Contract ใส่ตัวเลข 10 pixelsแล้วกด OK


5.ไปที่เมณู Layer--Type --Convert to Shape จะปรากฎกรอบรอบรอบข้อความ ไปที่

เมนุ Edit--Transform--Perspective แดรกเมาส์ที่มุมเพื่อปรับปรุงเป็นรูปทรงตามที่ต้องการ

แล้วกดปุ่ม Enter ไดภาพที่ต้องการ




ประยุกต์ใช้งานโปรแกรม photoshopCS3:การทำภาพ 3 มิติและโลโก้อักษรเงา





การประยุกต์ใช้งานโปรแกรม photoshopCS3:การทำภาพ 3 มิติและโลโก้อักษรเงา





การสร้างโลโก้ด้วยอัการ


1.ไปที่เมณู file--New จากนั้นกำหนดขนาด ความกว้าง 300 pixeis ความสูง 135 pixeis

และความละเอียด 72 pixele/inch

2.ไปที่เครื่องมือ Palnt แล้วเทสีเป็นสีดำ (เลือกสีดำก่อน)แล้วคลิกแถบเครื่องมือ
เพื่อสร้าง layer ขึ้นมาใหม่อีก 1 layer

3.จากนั้นคลิกที่เครื่องมือ Rounded Rectangle Tool และกำหนดสีโฟร์กราว์เป็นสีขาว
แล้วเลือกความโค้งมน Radius เป็น 15 แล้วคลิกรูปสามเหลี่ยม ซึ่งจะปรากฎดังรูป

4.จากนั้นไปที่เครื่องมือ Type Tool เลือกโฟร์กราวน์สีดำ แล้วพิมพ์ข้อความดังรูปภาพ
(เลือกชนิดอักษรและขนาดด้วย)

5.สร้างเงาให้โลโก้ โดยกดคีย์บอร์ด [Ctrl+T] จะปรากฎเส้นขอบรอบรูปเลเยอร์ที่เราเลือกแล้ว

เลือกเมนู flip Vertical เพื่อกลับด้านของเลเยอร์ดังกล่าว

6.เลือกเครื่องมืง Gradlent Tool และเลือกแถบสีเป็นโทนดำขาว

7.ทำการเก็บบันทึกไฟล์ชื่อว่า logokittkhan โดยไปที่เมนู File --Save As

8.คลิกปุ่ม Save ใส่รายละเอียดของไฟล์ JPEG ให้ใส่คุณภาพของภาพคลิก OK




วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

แต่งหน้าแค่เรื่องง่ายๆ

ขั้นที่ 1: เราควรจะรู้จักใช้ Base กันก่อน หรือครีมรองพื้นนี่เองค่ะ Base เป็นตัวทำให้การแต่งหน้าของเราอยู่ได้นานตลอดวัน และเป็นตัวปรับสภาพผิวให้ดูสดใสขึ้น เพราะจะมีสีต่างๆกันออกไป Base

สีม่วงต้องใช้กับคนผิวขาว ขาวจั๊วะๆนะคะ แต่ถ้าเป็น Base สีขาวก็คนขาว ธรรมดา ใช้ได้ แต่ถ้าเป็น Base สีเขียว อย่าเพิ่งตกใจนั่น สำหรับคนผิวคล้ำ ใช้แล้วหน้า ไม่เขียว เหมือนพระอินทร์หรอกค่ะ ส่วนคนผิวเหลืองก็ควรใช้ Base สีไข่ไก่ ใสกำลังดี เมื่อใช้ Base ทาบางๆ ลงไปให้ทั่วหน้า เว้นเปลือกตานะคะ แล้วเราก็มาเริ่มขั้นตอน ต่อไปได้เลย

สำหรับผู้ที่ไม่ชอบรองพื้น คุณสามารถใช้แป้งทาทันได้เลย จะเป็นแป้งฝุ่นสีโปร่ง หรือแป้งแข็งเนื้อหนาหน่อย หรือแบบแป้งผสมรองพื้น ก็ทาไปเถอะค่ะ ส่วนคน ที่ชอบรองพื้น ก็รองพื้นที่เข้ากับผิวคุณ ทาเบาๆบางๆ พอที่จะทำให้ผิวเนียน



ขั้นที่ 2: ถ้าคุณจะให้ดูเป็นทางการสักหน่อยในวันนั้น ก็สามารถใช้ concealer ซึ่งเป็น ตัวที่มีเนื้อครีมหนากว่าเนื้อของรองพื้น สามารถปกปิดริ้วรอยที่ไม่พึง ปรารถนา ได้มากกว่า และด้วยความที่มีสีอ่อนกว่าสีรองพื้น เมื่อคุณแตะแต้มไปใน ส่วนของ บริเวณ T-Zone คือกลางหน้าผาก สันจมูก และปลายคาง แล้วเกลี่ยให้เรียบ ก็จะทำให้บริเวณนี้ตื้นขึ้นมา ลองแตะไปที่บริเวณโหนกคิ้วสิคะ จะทำให้โหนกคิ้ว ดูสูงขึ้นเช่นกัน

สำหรับคนที่ใต้ตาช้ำ คล้ำบวม คุณใช้ concealer ทาทับจะสามารถกลบเกลื่อน ไม่ให้เห็นได้ทันที เขาเรียกว่าเป็นตัวช่วยปิดบัง

ขั้นที่ 3: ขั้นตอนต่อไป สำหรับผู้ที่ใช้รองพื้น ควรใช้แป้งฝุ่นทาทับกดให้แน่นๆ ลงไปให้ทั่วบริเวณใบหน้า ไม่เว้นแม้แต่เปลือกตา ใต้ตา และลำคอ เหมือนกับการลงรองพื้นนั่นแหละค่ะ

ขั้นที่ 4: ขั้นต่อไป เรามารู้จักการทำ shading กันดีกว่า คนเราถ้าจะแต่งหน้าให้ดีก็ต้องมีศิลป์ มีความรู้เรื่องของภาพวาดบ้างเล็กๆ คุณจะเห็นว่ารูปเขียนจะมีน้ำหนักของภาพ ดูตื้น ดูลึก มีระยะที่เห็นได้ใกล้และไกล ถ้าคุณจะแต่งหน้าก็ควรทำให้เหมือนวาดภาพ คือมีน้ำหนัก ตื้นลึก จะทำให้ดูเป็นคนแต่งหน้าเก่ง

อีกอย่าง จะช่วยแก้ไขใบหน้าได้ด้วย พวกหน้าบาน หน้ากว้าง หน้าแบน หน้ากลม ถ้ารู้จัก shading ซึ่งหมายถึงการแรเงาคุณก็จะมีหน้าที่เรียว หน้าแคบขึ้นมาทันที เราจะใช้ของ 2 สิ่งในการทำ shading อันหนึ่งเป็นไฮไลท์ คือ อายแชโดว์ ที่เป็นสีขาว สีขาวนวล หรือสีเบจ เป็นตัวที่ทำให้จุดที่แต่งแต้มลงไป ดูตื้นขึ้นนั่นคือ บริเวณ โหนก คิ้วทั้ง 2 ข้าง ใต้ตา สันจมูก และปลายคางควรเกลี่ยให้กลืนกัน และปริมาณเพียงเล็กน้อย

หลังจากนั้นใช้บลัชออน ที่ออกโทนสีน้ำตาลอ่อน ปัดไปที่บริเวณใต้โหนกแก้ม เป็นแนวเฉียงลงน้ำหนักเข้มควรเริ่มจากด้านในสุดของขอบใบหน้าใกล้ใบหู ปัดมายาวถึงบริเวณด้านหน้าแก้มให้หยุดปลายทางไว้ที่ขอบตาด้านนอก ซึ่งคุณต้องวัดดูเอาเอง หน้าใครหน้ามัน แล้วเกลี่ยให้กลืนกัน อย่าให้ดูเป็นเฉียงทึบ เดี๋ยวเหมือนโดนใครตบมา

ขั้นที่ 5: ขั้นตอนต่อไปเป็นการดัดขนตา ดัดเอาไว้ก่อนเถอะค่ะ จะทำให้ไม่ไปวุ่นวายหลังจาก คุณทาตาเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะง่ายในการปัดมาสคาร่า

เอ้า! มาทาตากันเถอะ คุณควรจะเลือกสีทาตาให้เข้ากับสีของเสื้อผ้า ที่จะใส่ในแต่ละครั้ง สีเป็นเรื่องบ่งบอกถึงรสนิยมแต่ก็ใช่ว่า ใส่ชุดแดงแล้วต้องทาตาสีแดงเสมอไป คงจะน่าเกลียดกระไรอยู่ เราหลีกเลี่ยงใช้สีอื่นได้ อาจเป็นโทนสีน้ำตาล แล้วค่อยทาปากแดง เลือกสีที่ควรจะเป็นไปได้อยู่บนเปลือกตา แต่ขอบอกว่าสีเขียวสำหรับคนไทยใช้ยากนัก

เมื่อคุณเลือกสีเป็นที่พอใจแล้ว ให้ทาลงไปทั่วเบ้าตา จากชิดขอบตาขึ้นมาถึงเบ้าตาของคุณ แล้วเกลี่ยให้กลืนกันกับสีไฮไลท์ที่ลงไปตั้งแต่ครั้งแรก หลังจากนั้นให้ใช้สีน้ำตาลเข้มหน่อยทาลงไปบริเวณหางตาให้มันดูลึกลง เกลี่ยให้กลืนกับสีแรก แล้วค่อยๆ ทาขึ้นไปทับเบ้าตาของคุณด้วยสีน้ำตาลเข้มนี้แหละ จะทำให้ตาคุณดูลึก พวกตาบวม เยื้อโปนๆ ควรจะทำ ตาไม่มีเล่าเต๊งยิ่งน่าทำใหญ่

เขาเรียกว่าการทำ second line เบาๆ เพื่อให้เกิดรอบพับของตา และความลึกของเบ้าตา ตาคุณจะดูซึ้งขึ้นมาทันที เกลี่ยสีน้ำตาลเข้มลงใต้ตาของคุณด้วยนะคะ เริ่มจากบริเวณ หางตา น้ำหนักเข้มจะได้อยู่บริเวณนั้นมากกว่า แล้วค่อยเกลี่ยมา ถึงหัวตา สีก็จะเบาไปเองโดยปริยาย ได้สีตาแล้ว

ขั้นตอนต่อไปก็ทำเส้นตาสิคะ จะใช้อายไลน์เนอร์แบบน้ำหรือแบบเค้ก ที่ใช้พู่กันจุ่มน้ำหรือใช้ดินสอเขียนตา ก็แล้วแต่ความถนัด แต่ควรเป็นสีดำ สีน้ำตาล เข้ม หรือสีเทา จะเหมาะกับคนไทยเรามากจะใช้สีม่วง น้ำเงิน ฟ้า ก็ได้ ในบางโอกาส (คนตาสวยเท่านั้นที่ใช้กัน)

ลากเส้นตาให้เล็กๆ ชิดขอบตาบน ส่วนขอบตาล่างเขียนเบาๆ พอประมาณ ให้น้ำหนักอยู่บริเวณหางตา ไม่จำเป็นต้องเขียนเข้มถึงหัวตา เอาแค่ตาล่างก็พอไม่งั้นตาจะดูดุ

เสร็จแล้วก็ปัดมาสคาร่าเป็นขั้นตอนต่อไป ปัดเยอะๆ นะคะ ทั้งขนตาบนและล่าง ตาคุณจะสวยดีจะทำให้เกิดเส้นขอบตาได้ด้วย บางครั้งถ้าคุณรีบไม่ต้องเขียนอายไลเนอร์ก็ได้

ขั้นที่ 6: ขั้นตอนต่อไป เป็นเรื่องคิ้ว คนที่แต่งกันคิ้วได้รูปขนคิ้วเข้มไม่จำเป็นต้องเขียนคิ้วก็ได้ ใช้แปรงปัดคิ้วให้รองพื้นและเศษแป้งหลุดออก แล้วใช้มาสคาร่าเจลปัดขนคิ้วให้ตั้งขึ้นหรือนอนเรียงกัน คิ้วจะเข้มตามธรรมชาติของสีขนคิ้วคุณ และดูเป็นระเบียบเรียบร้อย

ส่วนคนขนคิ้วน้อย ควรต้องเขียนหรือต่อเติมแน่นอนค่ะ สีคิ้วควรจะเป็น สีน้ำตาลเข้ม อย่าใช้สีดำเด็ดขาด หน้าคุณจะดูแข็งและดุทันที อาจใช้ดินสอเขียนคิ้ว หรือ อายแชโดว์ สีน้ำตาลเข้มเขียนก็ได้ แต่อย่างหลังต้องมีแปรง สำหรับเขียนคิ้ว จะบอกให้ว่า อย่างหลังนี้เมื่อเขียนแล้วจะดูเป็นธรรมชาติมาก

คิ้วที่เขียน หัวคิ้วไม่ควรจะเข้มนัก ปล่อยให้ขนคิ้วของคุณเองโชว์ความงามอย่างเต็มที่ หางคิ้วต้องเล็กแหลม รูปคิ้วต้องโค้งพอประมาณ หัวคิ้วใหญ่ หางคิ้วเล็ก ถ้าทำได้เช่นนี้ หน้าหวานแน่แท้เชียว

ใกล้ถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้วล่ะค่ะ ทาปากสิคะ ใช้สีให้ไปกันได้กับสีของเปลือกตา แต่ถ้าคุณจะใช้ดินสอตัดขอบปากก่อนยิ่งดีใหญ่ จะได้รูปปากที่พึงพอใจ และทาปากง่ายเมื่อใช้ลิปสติก สีของดินสอตัดขอบปากต้องอยู่ในโทนเดียวกันกับสีของลิปสติกแต่เข้มกว่านะคะ วาดไปตามรูปปาก ถ้าใหญ่นักก็เขียนในขอบปากจริงของเรา ถ้าเล็กนักก็เขียนอยู่เกินขอบปากจริงของเรา ริมฝีปากที่สวยงาม ควรมีริมฝีปากบนและล่างเท่ากัน ปากจะดูอิ่ม น่าจูบ

ทาลิปมันเบาๆ ตัดขอบปากแล้วทาลิปสติก ถ้าใช้พู่กันทาปากก็จะยิ่งดีใหญ่เนื้อลิปสติกจะเนียน ขอบปากจะคมชัด เมื่อคุณทาทับเส้นตัดขอบปากที่วาดเป็นรูปไว้แล้ว

ถ้าคุณทาสีเข้ม ใช้สีอ่อนในโทนเดียวกันวางไว้ตรงกลางปากบนและล่าง ถ้าคุณทาสีอ่อน ใช้สีเข้มวางไว้ตรงมุมปากทั้งสองข้าง ปากจะดูอิ่มน่าจูบมากยิ่งขึ้น

ขั้นตอนสุดท้าย: และท้ายสุดในขั้นตอนของการแต่งหน้า ใช้บลัชออนสีที่เข้ากับตาและสีปาก ปัดไปที่ด้านของแก้ม จุดสุดท้ายที่คุณหยุดเส้นของ shading นั่นแหละ เบาๆ บางๆ ให้แก้มดูระเรื่ออมเลือดฝาดสาว คุณจะดูเปล่งปลั่งขึ้นทันตาเห็น

แต่ถ้าคุณมีแป้งฝุ่นสีม่วง สีเหลือง สีเขียว ใช้ปัดตอนสุดท้ายหลังแต่งหน้าเสร็จ เขาเรียกว่า finishing touch จะทำให้หน้าคุณสว่างขึ้นอีกเช่นกัน สีแป้งที่ใช้ก็ต้อง ไปได้กับ สีผิวเหมือน Base นั่นแหละค่ะ

ประวิตืส่วนตัว

นางสาว อัยลดา ศรีอ่อน

ชื่อเล่น *--* กิ๊กค่ะ *--*

สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ สสท 2/1 เลขที่19

นิสัย ร่าเริง รักสนุก เข้าได้กะทุกคน

อาหารที่ชอบ ไม่รู้เหมือนกัน กิงได้หมด

สิ่งที่ชอบ ชอบอะไรที่เปงของฟรี

หนังที่ชอบ The letter

เพลงโปรด รักโลกาพิวัฒิ (อินดี้ สกา แล็กเก้)

กลอนที่ชื่นชอบ
ไม่ขอเป็นคนที่เธอบอกว่าชอบ
แต่ขอเป็นคนที่เธอบอกว่าใช่
ไม่ขอเป็นคนที่เธอบอกว่ารักจนหมดใจ
แต่ขอเป็นคนที่เธอห่วงใยตลอดมา
ไม่ขอเป็นคนที่เธอต้องคิดถึง
แต่ขอเป็นคนหนึ่งที่เธอคอยถามหา
ไม่ขอเป็นคนที่อยู่กับเธอตลอดเวลา
แต่ขอเป็นคนที่เธอเห็นคุณค่าทุกเวลาที่หายใจ

การติดตั้งน็อต 32.เวอร์ชั่น 4

ป้องกันไวรัส กับ NOD32 4.0.68 + วิธีอัพเดทและติดตั้งด้านใน
ESET NOD32 Antivirus 4.0.68 :โปรแกรมป้องกันไวรัสแบบ Real-Time ป้องกันไวรัส หนอน ม้าโทรจัน สปายแวร์ และอื่่นๆ ในเครื่องคุณ
วิธีการติดตั้ง ESET NOD32 Antivirus 4.0.68 32
1.ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ eav_nt32_enu.
2.คลิก Next
3.เลือก I accept ...... คลิก Next
4.เลือก Typical... คลิก Next
5. Username และ Password ไม่ต้องเปลี่ยน ให้คลิก Next เลย
6. คลิก Next
7.เลือก Enable detection คลิก Next
8.คลิก Install
9.คลิก Finsh
** หลังจากนั้นรอโปรแกรมทำงาน สัก 1 - 2 นาที มันจะอัพเดทฐานข้อมูล
ถ้าโปรแกรมไม่ยอมอัพเดทฐานข้อมูล ให้ศึกษาวิธีการ Crack จากขั้นตอนการติดตั้งที่ไฟล์ .PDF ครับ

User/Pass สำหรับอัพเดต แอนตี้ไวรัส ESET NOD32
คีย์ประจำวันที่ : 23 มี.ค. 52
ESET NOD32 V.3

Username: EAV-13554635
PassWord: e85d85rnt8

Username: EAV-13325155
PassWord: 2kk3m2hrtc

Username: EAV-13609116
PassWord: bf4h5rd3st